เมื่ออากาศเปลี่ยน หรือหนาวเย็นขึ้น หลายๆคนก็เริ่มมีอาการที่น่ารำคาญอย่างนึง คืออาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่สะดวก ซึ่งสร้างความน่ารำคาญเป็นอย่างมาก บางคนมีอาการจามอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมืออากาศเปลี่ยนแปลงทีไร ก็เกิดอาการแบบนี้ทุกที เมื่อไหร่จะหายซักที หลายคนตั้งคำถามอยู่ในใจ เพื่อเป็นการลดปัญหาและความน่ารำคาญ ของอาการเหล่านี้ เนื้อหาต่อไปนี้จึงเป็นทางเลือกนึงเพื่อใช้เป็นแนวทาง สำหรับผู้ทีมีอาการสามารถนำไปใช้ เพื่อลดหรือหลีกเลี่ยงเพื่อให้เกิดอาการน้อยลงหรือบรรเทาอาการให้มากที่สุดได้

อาการคัดจมูกเป็นอาการเริ่มต้นของโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นปัญหาสุขภาพที่สร้างความรำคาญใจ เป็นอย่างมาก สามารถเกิดขึ้นได้กับหลายๆคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กๆไปจนถึงคนชรา อาการคัดจมูกอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเหล่านี้ เช่น โรคหวัด โรคภูมิแพ้ และโรคไซนัสอักเสบ สาเห็ตุของอาการคัดจมูกอาจเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  รวมทั้งภาวะภูมิแพ้ ซึ่งอาจทำให้ผู้มีอาการหายใจไม่สะดวก  อาจมีน้ำมูกไหล มีอาการจาม  หรือมีปัญหาเรื่องของปวดหู หูอื้อ เมื่อขึ้นหรือลงลิฟต์เร็วๆ

อาการคัดจมูก ที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ หรือหวัดนั้น คนส่วนใหญ่ มักจะแยกไม่ออกว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการติดเชื้อ หรือเกิดจาก โรคภูมิแพ้  สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการคัดจมูก จะเกิดจาก

  1. เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ

2.ติดเชื้อไวรัส

  1. โครงสร้างจมูกผิดรูป

4.มีเนื้องอกในโพรงจมูก

แต่สาเหตุหลักๆ ที่พบมากที่สุดในปัจจุบัน คือ เกิดจากโรคภูมิแพ้

สำหรับโรคภูมิแพ้นั้น  เป็นโรคที่ตรวจพบได้บ่อย โดยที่มีสาเหตุแตกต่างกันออกไป เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  สิ่งแวดล้อม ฝุ่น ควัน  และบางกรณี ก็อาจเกิดจากพันธุกรรม อาการของโรคภูมิแพ้โดยทั่วไป  จะมีอาการน้ำมูกไหล คันจมูก แน่นจมูก จามบ่อย เจ็บคอ สาเหตุจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก มลพิษในอากาศก็ค่อนข้างเยอะ ที่อยู่อาศัยแออัด หลายคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย ความเครียดสะสม ทำให้คนป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เยอะมากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยพบว่า ในช่วงประมาณ 40 ปีที่ผ่านมานี้ มีผู้ป่วยเป็นโรคนี้ เพิ่มขึ้น  3-4 เท่าตัวเลยทีเดียว

หลายคนคิดว่าอาการที่เป็นนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่นานเดี๋ยวก็หาย ปล่อยไว้เดี๋ยว ก็ดีขึ้นเอง ไม่ต้องหาหมอ ไม่ต้องกินยา ทั้งหมดนี้เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นภูมิแพ้ ระบบทางเดินหายใจจะถูกกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ต่อเนื่อง นานวันเข้าเยื่อบุจมูกที่อักเสบจะบวมขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หายใจไม่ออก ลุกลามเป็น ริดสีดวงจมูกได้  และจะมีปัญหาเรื่องของนอนกรนตามมา ต้องหายใจทางปาก เวลานอนก็จะอ้าปาก เพราะขาดอากาศตอนนอน คุณภาพของการนอนก็จะลดลง ทำให้รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ตื่นมาปากคอแห้ง เจ็บคอทุกเช้า มีน้ำมูกไหลจากจมูกลงคอตลอดเวลา อาการของริดสีดวงจมูกที่ว่านี้อาจจะไปปิดรูเปิดไซนัสซึ่งอยู่บริเวณใบหน้า ทำให้เกิดอาการปวดตรงบริเวณใบหน้าของตัวเอง ทำให้ปวดศีรษะหรืออาจเกิดไซนัสอักเสบเพิ่มเติมขึ้นมา อีกโรคหนึ่งก็ได้

โรคภูมิแพ้ ถึงแม้จะยังไม่มีวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ให้หายขาด แต่สามารถรักษาให้ดีขึ้นหรือลด บรรเทาอาการได้ ซึ่งถ้าหากเรารับรู้จากแพทย์ว่าเป็นโรคภูมิแพ้แล้ว และไม่อยากให้อาการภูมิแพ้ที่เป็นอยู่กำเริบก็ควรปฏิบัติดังนี้

1.หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่พิสูจน์แล้วว่ามีผลต่อตนเองให้มากที่สุด เช่นบางคนแพ้ขนแมว ฝุ่นละออง  เกสรดอกไม้

2.พักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ

3.เครียดให้น้อยลง

4.ต้องใช้ยาอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีตามที่แพทย์แนะนำ

สำหรับ การเลือกใช้ยาในการรักษาโรคภูมิแพ้นั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่เกิดขึ้นของโรคและอาการของผู้ป่วยนั้น ว่ามีอาการอะไรเด่น แพทย์จึงจะพิจารณาเลือกใช้ยาที่มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการนั้นๆ เช่น การใช้ยาหดหลอดเลือดแบบพ่น สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูก ซึ่งจะมีข้อดีของการใช้ยาลักษณะนี้คือ ออกฤทธิ์เฉพาะที่ และยังเห็นผลได้เร็ว อาการข้างเคียงน้อยกว่ายาหดหลอดเลือดแบบรับประทาน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ควรระวัง สำหรับการใช้ยาหดหลอดเลือดแบบพ่นคือ ควรจะใช้ยาในระยะสั้น และใช้ตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น

เมื่อเรารู้สาเหตุและ อาการของโรคแล้ว ก็จะสามารถรู้วิธีลด หรือบรรเทาอาการให้น้อยลงได้ คนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ จะรู้ดีอยู่แล้วว่าโรคภูมิแพ้นั้น เป็นโรคประจำตัว ซึ่งบางครั้งอาการของโรค ก็จะสร้างความรำคาญให้กับเรา แต่ก็จะไม่เป็นอุปสรรคชีวิตของเราอีกต่อไป ถ้าเรารู้วิธีการรับมือกับโรคนี้อย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญที่อยากเน้นย้ำคือ การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปได้

 ผ้าปูที่นอน Mix สีได้

 http://cottoncolor4u.com/

Comments are closed.

Post Navigation